วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

ดอกไม้สร้างเงิน เงินด่วน

สวัสดีครับที่ผมได้ตั้งหัวข้อไว้ว่า "ดอกไม้สร้างเงิน เงินด่วน" ไม่ผิดหรอก และไม่ได้มาโม้ ไม่ได้มาโฆษณาชวนให้เชื่อด้วย จริง ๆ ครับ ที่บอกว่า เงินด่วน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น แค่ดอกไม้ทานตะวันนี่น่ะ สามารถทำเงินด่วนได้ จริง ไม่เชื่อตามผมมา
ผมมาเสนอไอเดียดี ๆ สำหรับเกษตรกรชาวบ้านชาวสวนที่มีทีดินติดถนนสักหน่อย ไม่ต้องมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ ลพบุรี ทุ่งทานตะวันหรอก เพราะทุ่งทานตะวันนั้น เขาทำเงินได้มากมายมหาศาล ไม่ใช่แค่จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่มีอย่างอื่นมาแฝงมากับการท่องเที่ยวคือการค้าขายสินค้าพื้นเมือง ด้านอาหาร เครื่องดื่ม รีสอร์ท โรงแรม นับเป็นมูลค่าหลาย 10 ล้านบาท

ทราบอย่างนี้ก็พอจะเริ่มนึกออกบ้างแล้วใช่ไหมครับท่าน ผมไปเห็นสวนทานตะวันแห่งหนึ่งริมถนนแห่งหนึ่งแต่ก็อยู่ในพื้นที่ จังหวัดลพบุรี แถว ๆ ที่เขาจัดงานทุ่งดอกทานตะวัน แต่ในช่วงนั้นดอกทานตะวันมันออกมาเยาะมาก พอเยาะมากคนก็มีตัวเลือกเยอะมาก คือไปเที่ยวในที่เขาโปรโมทกันสวนใหญ่ ๆ มีวิวดี ๆ ก็เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาก หากมีความพร้อมเรื่องที่พัก รีสอร์ท และก็การจัดการอื่น ๆ ที่เป็นบริการเสริม เช่น รถเทรกเตอร์ขับพาชมทุ่งดอกทานตะวันยิ่งแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวไปกันเพียบ คนนับพันนับหมื่นต่อวัน แล้วก็เก็บหัวละ 20.- บาท ค่าเข้าไปในทุ่ง และมีค่าบริการรถนำเที่ยวอีก 10. - 20. บาท ลองคิดดูก็แล้วกัน รับและ

แต่สำหรับทุ่งที่ไม่ได้มีการโปรโมทก็ต้องแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจเลือกว่าจะเขาชมในทุ่งทานตะวันของเราหรือเปล่า ก็มีคนหัวใส ไม่ใช่หัวล้านนะครับ เขาก็จะกันที่ริมถนนไว้ประมาณ 1 ไร่กว่า ๆ แล้วเขาก็จะปลูกหลังจากช่วง ฤดูการปลูกประมาณ 1 เดือน หรือ 1 1/2 เดือน ซึ่งแน่นอนดอกทานตของเขาก็จะบานช้ากว่า ทุ่งที่มีนักท่องเที่ยวชมกัน ซึ่งช่วงนั้นเขาก็ไม่มีรายได้อยู่แล้ว แต่พอเขาปลูกหลังจากสวนอื่น ๆ แน่นอนทุ่งทานตะวันของที่อื่น ๆ ก็โรย และก็เก็บเกี่ยวหมดแล้ว หรือไม่ก็ดอกทานตะวันก็ดำหมดแล้ว หากคนที่ไม่ได้ไปช่วงที่เป็นฤดูการท่องเที่ยว อาจจะไม่มีเวลา หรือว่าไม่อยากไปเนื่องจากไม่อยากไปในช่วงที่การจราจรหนาแน่น ไม่อยากไปเที่ยวในช่วงที่คนเยอะ ๆ ซึ่งอะไรก็แย่งกันไปหมด ทีนี้ก็เหลือแต่ทุ่งทานตะวันของเราเพียงเจ้าเดียว พอคนขับรถผ่านเห็นทุ่งดอกทานตะวันบานสพรั่งอยู่เจ้าเดียว เหลืองอร่ามอยู่ข้างหน้า ก็อยากจะจอดรถเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แน่นอน เพราะว่าช่วงที่เขาเที่ยวกันเราไม่มา ฉะนั้นก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ถ่ายภาพไปอวดเพื่อน ๆ ให้เต็มที่ เหมือนว่าเรานั้นไม่ตกยุคซะงั้น พอเราจอดรถปั๊ป ลูก ๆ ก็วิ่งปรี่เขาไปในทุ่งดอกทานตะวันทันทัน แต่เข้าไม่ได้น่ะครับ เพราะเขาได้ขึงเชือกไว้ ให้เข้าด้านหน้าด้านเดียว และก็เก็บคนละ 20.- บาท จากนั้นก็เชิญลุยโลดไปเลย หามุมเอาตามสะดวก เก๊กท่าหล่อ ท่าสวยกันสุดฤทธิ์สุดเดช ในเนื้อที่ประมาณเพียงแค่ 1 ไร่กว่า ๆ พอไปยืนอยู่ในทุ่งดอกทานตะวันแล้ว มันกว้างพอสมควร เหมือนกับทุ่ง ใหญ่ ๆ ก็ไม่ผิด พอเราเข้าไปสักพักเดียวเท่านั้น ก็มีรถบัสนำนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาจอด มีคนประมาณ 40 คน ก็ลงจากรถและก็เสียค่าผ่านเข้ามาถ่ายรูปเหมือนเรา แต่ไม่รู้ว่าเสีย 20.- บาทเหมือนเราหรือเปล่า ผมไม่ได้ถามคนเก็บตังค์ หลังจากมีรถบัสมาจอดแล้ว ก็มีรถยนต์ส่วนตัว รถเก๋ง หลาย ๆ คันมาจอดกันริมถนน จนเป็นแถว ๆ ยาว ๆ ผมลองมานั่งคำนวณแล้ว และก็ถามว่าเก็บเงินได้ประมาณวันละเท่าไร เขาบอกว่า เกือบหมื่น บางทีก็หมื่นกว่าบาท 10,000 กว่าบาท! ผมร้องตกใจ แต่ก็ได้ไม่กี่วัน ประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นก็เก็บเกี่ยวขายเม็ดได้อีก แถมราคาดีด้วย





ใครมีที่ริมถนนก็ปลูกไว้ก็ได้น่ะ ไอเดียนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ สวยดีแถมได้ตังค์ 2 ทาง

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

จัดสวนด้วย โอ่งมังกร โอ่งโบราณ



สวัสดีครับเพื่อน ๆ การจัดสวนนั้นสามารถนำสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในภูมิภาคพื้นบ้านของเรา ซึ่งจะทำให้สวนของเรานั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่นที่ผมนำมาเสนอนี้ ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของพื้นบ้านไทย ๆ ของเราเอง นั่นก็คือโอ่งน้ำ (Jar) ที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละ โดยเฉพาะใครที่อยู่ต่างจังหวัดด้วยแล้วต้องรู้จักโอ่งน้ำ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโอ่งมังกร โอ่งเขียวไข่กา โอ่งดินเผาด่านเกวียน โอ่งมอญ โดยเฉพาะโอ่งมังกรใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงโอ่งราชบุรีแน่นอน มีคำสโลแกนประจำจังหวัดราชบุรีว่า


“คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร
วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน
เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี”


ท่านทราบหรือเปล่าว่าทำไมโอ่งมังกรจึงต้องมาจากราชบุรีเพียงแห่งเดียวหรือ ก็ไปเคยคุยกับชาวบ้านที่เขาขายโอ่งกันมานานตั้งแต่ยุคพ่อของพ่อ อะไรประมาณนั้นเล่าให้ฟังว่า มีคนจีนซึ่งเคยทำเครื่องปั้นดินเผามาก่อนจากเมืองจีน ได้มาริเริ่มทำโอ่ง อ่าง ไห ขาย จีนรุ่นบุกเบิกชื่อ นายจือเหม็ง แซ่อึ้งและพรรคพวก ได้รวบรวมทุนได้ 3,000 บาท ตั้งโรงงานเถ้าเซ่งหลีขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2476 เป็นโรงงานขนาดเล็กบริเวณสนามบินอยู่ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลราชบุรีเดี๋ยวนี้










โอ่งเขียวไข่กา ใบนี้สมบูรณ์มาก นำมาจัดสวนทำให้สวนดูสวยมีสไตล์


เขาบอกว่าแหล่งดินสีแดงที่ราชบุรีก็ค่อนข้างจะมีคุณภาพเหมือนที่เมืองจีน ดังนั้น จากเดิมเราใช้โอ่งอ่างไหจากเมืองจีน ผู้ริเริ่มก็ทำอ่าง ไห กระปุก และโอ่งบ้างเล็กน้อย ให้ชาวมอญราชบุรีใส่เรือไปเร่ขาย
การทำโอ่งได้ริเริ่มอย่างจริงจังก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดินขาวที่ใช้แต่งลวดลายเดิมได้มาจากเมืองจีน ต่อมาได้หาทดแทนจากดินที่ท่าใหม่จันทบุรี และสุราษฏร์ธานี เมื่อกิจการรุ่งเรืองขึ้น โรงงานจึงขยายกิจการและผลิตโอ่งเพิ่มมากขึ้น หุ้นส่วนหลายคนแยกตัวไปตั้งโรงงานเอง โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรี
ปัจจุบันมีโรงงานผลิตโอ่งอยู่ถึง 42 แห่ง และเป็นโรงงานผลิตเครื่องเคลือบรูปแบบต่าง ๆ ออกไปอีก 17 แห่งตามจังหวัดอื่น ๆ ที่แยกไปจากนี้ คือ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดชลบุรีและในกรุงเทพมหานครบริเวณ สามเสน เป็นต้น

โอ่งดินเผาด่านเกวียน ในเอกลักษณ์ของด่านเกวียนคือตัวโอ่งบาง เนื้อแกร่ง เวลาเราเคาะเบา ๆ จะมีเสียงดังกังวาล


เจ้าของโรงงาน ช่างปั้น และประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดราชบุรี เมื่อครึ่งศตวรรษมาแล้วล้วนเป็นลูกหลานจีน ดังนั้นช่างปั้นจึงได้คิดคัดเลือกลวดลายที่เป็นมงคล และมี
ความหมายที่ดี เพื่อให้เกิดความรู้สุกที่ดีต่อผู้ใช้ นอกเหนือจากความงามเพียงอย่างเดียว ที่สุดก็ได้เลือกสรรลวดลายมังกร ซึ่งแฝงและฝังไว้ด้วยความหมายตามความเชื่อ
คตินิยมในวัฒนธรรมจีน
ลวดลายมังกรดั้นเมฆ มังกรคาบแก้ว และมังกรสองตัวเกี่ยวพันกัน ล้วนเป็นสัตว์สำคัญในเทพนิยายของจีน เป็นเทพแห่งพลัง แห่งความดี และแห่งชีวิต ช่างปั้นเลือกเอา
มังกรที่มี 3 เล็บหรือ 4 เล็บ เป็นลวดลายตกแต่งโอ่ง ช่างผู้ชำนาญปาดเนื้อดินด้วยหัวแม่มือเป็นรูปมังกร โดยไม่ต้องร่างแบบ ขีดเป็นลายมังกรด้วยปลายซี่หวี เป็นหนวด นิ้ว
เล็บ ส่วนเกล็ดมังกรหยักด้วยแผ่นสังกะสีแล้วเน้นลูกตาให้เด่นออกมา

มารู้จักมังกรซิครับ
พญานาค
เป็นชื่อที่คนไทยเรียก
มังกร
เป็นชื่อที่คนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและญวนใช้เรียก
จึงผิดกันเฉพาะรูปร่างหน้าตาและชื่อที่เรียกเท่านั้น ไทยเราไม่เรียก แล้ง เล่ง หรือ หลง ตามภาษาจีน แต่เรียกมังกร มาจากบาลีสันสกฤตว่า มกร หรืออย่างไร ก็ไม่ทราบ
ว่าถึงรูปร่างมกรก็เป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนรูปเล่งของจีน ในหนังสือตำราพิชัยสงคราม สมัยรัชกาลที่ 2 มีการจัดขบวนทัพข้ามน้ำเรียกว่า มังกรพยุหะ ก็เขียนรูปมังกรคล้าย
พญานาค เพียงแต่เพิ่มเขาและเท้าเข้าไปเท่านั้น บางตัวก็มีเกล็ด บางตัวก็มีลายแบบงู ความจริงรูปร่างมังกรแบบจีน คนไทยก็คงเคยเห็นมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้วใน
สมัยรัตนโกสินทร์ก็ใช้เป็นลายประดับตามประตู และสลักบนแผ่นหินหลายแห่งรูปมังกรของจีนคงจะได้แพร่หลายไปตามภาชนะพวกถ้วยชามโอ่งไห ดังได้พบบนลายโอ่ง
สมัยราชวงศ์ถังที่พบในแม่น้ำลำคลอง
ความจริงแล้วเรื่องของมังกร พญานาค งู ปลา จระเข้ มีเรื่องพัวพันกันชอบกลเรื่องของจีนที่เกิดสมัยที่นับถือพระพุทธศาสนาแล้ว ไทยแปลคำว่า เล้ง เล่ง หลง เป็น
พญานาคหมด ทำให้คนไทยเข้าใจเรื่องดีขึ้น และไทยก็เอารูปมังกรมาเขียนเป็นเป็นแบบไทย ๆ คล้ายพญานาคดังกล่าวมาแล้ว
ในหนังสือประวัติวัฒนธรรมจีนได้กล่าวถึงกำเนิดมังกรไว้เป็นความว่า มังกรเกิดขึ้นในสมัยอึ่งตี่หรือหวงตี้ ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องหมายประจำชาติจีน เพราะ
สมัยโบราณมนุษย์นิยมใช้รูปสัตว์หรือดอกไม้เป็นเครื่องหมายประจำเผ่าของตน ชาติจีนที่ได้รวมขึ้นเป็นชาติใหม่ จึงควรมีเครื่องหมายประจำชาติใหม่ กษัตริย์อึ่งตี่จึงนำ
ส่วนต่าง ๆ ของสัญลักษณ์ที่แต่ละเผ่าเคยใช้มารวมกัน คือนำหัวของสัญลักษณ์ชนเผ่าวัว ลำตัวของเผ่างู เกล็ดหางของเผ่าปลา เขาของเผ่ากวาง และเท้าของเผ่านก นำ
ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มาปรุงเป็นรูปสัตว์ชนิดใหม่ขึ้นเรียกว่า เล้ง หรือมังกร
มังกรมีเล็บไม่เท่ากัน มังกรผู้ยิ่งใหญ่หรือระดับหัวหน้าจะมี 5 เล็บ และรูปมังกรที่ฉลองพระองค์ของจักรพรรดิจะมีเล็บมากกว่ามังกรธรรมดา คือ ธรรมดามีเพียง 4 เล็บ
รูปมังกรที่ฉลองพระองค์ก็จะมี 5 เล็บ และใช้เป็นเครื่องหมายของราชวงศ์ที่มียศสูงสุดส่วนพวกเจ้าชั้นที่ 3 ที่ 4 หรือขุนนางใช้เป็นเครื่องหมายได้เพียงมังกรชนิดชนิด 4
เล็บเท่านั้น ส่วนการประดับตกแต่งทั่ว ๆ ไปก็จะใช้มังกรชนิด 3 เล็บเป็นพื้น มังกรชนิด 5 เล็บนั้นกล่าวว่าเล็บที่ 5 ไม่ได้เรียงกันแบบธรรมดา เล็บที่ 5 จะวางอยู่ตรงกลางฝ่า
เท้า
มังกรของจีน นอกจากจะมีเขาแบบกวางแล้ว ตัวผู้ยังมีหนวดมีเคราอีกด้วย ตั้งแต่รัชกาล เถาจื่อ แห่งราชวงศ์ถัง ได้เริ่มใช้มังกร 5 เล็บ เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ
มังกรมี 3 ชนิด แต่แบ่งหน้าที่เป็น 4 พวก
จีนได้แบ่งชนิดของมังกรออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
หลง
เป็นพวกที่มีอำนาจมากที่สุด มีนิสัยชอบอยู่บนฟ้า
หลี
เป็นพวกที่ไม่มีเขา อาศัยอยู่ในมหาสมุทร
เจียว
เป็นพวกมีเกล็ด อยู่ตามลุ่มหนองหรือถ้ำในภูเขา
ที่รู้จักกันมากคือ หลง ซึ่งมีส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ 9 อย่างดังกล่าวมาแล้ว
มังกรของจีนมีหน้าที่แบ่งกันทำ 4 พวกด้วยกัน คือ
มังกรสวรรค์
มีหน้าที่รักษาวิมานเทวดาและค้ำจุนวิมานไม่ให้พังลงมา
มังกรเทพหรือมังกรเจ้า
มีหน้าที่ให้ลมให้ฝนเพื่อประโยชน์ของมนุษย์
มังกรพิภพ
มีหน้าที่กำหนดเส้นทางดูแลแม่น้ำลำธาร
มังกรเฝ้าทรัพย์
มีหน้าที่เฝ้าขุมทรัพย์ของแผ่นดิน
มีเรื่องน่าสังเกตว่า หน้าที่ของมังกรไปตรงกับหน้าที่ของพญานาค ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 พวกเหมือนกัน
ไทยรู้จักมังกรมาตั้งแต่เมื่อไร
อย่างต่ำที่สุดก็ พ.ศ.2276 ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ มีรูปมังกรประดับพระเมรุด้วย แต่รูปร่างจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ มาเห็นรูป
ร่างมังกรในตำราพิชัยสงครามสมัยรัชกาลที่ 2 กรุงรัตนโกสินทร์ก็เป็นแบบไทย ๆ คือคล้ายพญานาค แต่ไม่มีหงอนสูง มีเขา 2 เขา มีครีบ มีตีน

ทำไมรูปมังกรจึงต้องมีลูกแก้วด้วย
ตามตำนานกล่าวว่า มังกรมีไข่มุกมีค่าเท่ากับทองร้อยแท่งอยู่ในปาก เมื่อมังกรต่อสู้กันอยู่บนอากาศ ไข่มุกก็ตกลงมาบนพื้นดิน ต้นเรื่องของมังกรคาบแก้วหรือเล่น
แก้วจะมาจากเรื่องนี้หรือเปล่าไม่ทราบ แต่ฟังตามเรื่องแล้วมังกรชอบเพชนนิลจินดามาก ตามภาพเขียนของจีนถ้าเป็นรูปมังกร 2 ตัวหันหน้าเข้าหากัน ก็จะเป็นรูปกลม ๆ สี
แดงอยู่ระหว่างมังกรทั้งสองนี้ บ้างก็ว่ารูปกลมแดงนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์

ภูมิใจในคำขวัญ “เมืองโอ่งมังกร”
ด้วยพื้นฐานของช่างปั้นซึ่งเป็นลูกหลานของคนจีน เนื้อดินเหนียวเป็นวัตถุดิบชนิดดี ช่างติดลายได้นำความสามารถเชิงศิลปะสะท้อนภาพชีวิตตามวัฒนธรรมจีน มา
ผสมผสานกับเทคนิคการผลิตเป็นอุตสาหกรรม อดีตจากท่าน้ำหน้าเมือง โอ่งมังกรจะแพร่ไปทั่วตามแม่น้ำลำคลอง ที่เรือขายโอ่งจะผ่านไปได้ จนปัจจุบันนี้ รถบรรทุกสิบล้อ
จะขนไปขายทั่วประเทศอย่างเนื่อง ไม่ว่าเหนือจรดใต้ จนเป็นที่รู้จักว่าราชบุรีคือเมืองโอ่งมังกร

เมื่องานกีฬาเยาวชนครั้งที่ 5 และงานมหกรรมของดีเมืองราชบุรี ปี 2532 จังหวัดได้สร้างคำขวัญเพื่อเผยแพร่ให้รู้จักจังหวัดราชบุรี ว่า

คนจีนซึ่งเคยทำเครื่องปั้นดินเผามาก่อนจากเมืองจีน ได้มาริเริ่มทำโอ่ง อ่าง ไห ขาย
จีนรุ่นบุกเบิกชื่อ นายจือเหม็ง แซ่อึ้งและพรรคพวก ได้รวบรวมทุนได้ 3,000 บาท ตั้งโรงงานเถ้าเซ่งหลีขึ้น
เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2476 เป็นโรงงานขนาดเล็กบริเวณสนามบินอยู่ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลราชบุรีเดี๋ยวนี้
แหล่งดินสีแดงที่ราชบุรีก็ค่อนข้างจะมีคุณภาพเหมือนที่เมืองจีน ดังนั้น จากเดิมเราใช้โอ่งอ่างไหจากเมืองจีน
ผู้ริเริ่มก็ทำอ่าง ไห กระปุก และโอ่งบ้างเล็กน้อย ให้ชาวมอญราชบุรีใส่เรือไปเร่ขาย
การทำโอ่งได้ริเริ่มอย่างจริงจังก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดินขาวที่ใช้แต่งลวดลายเดิมได้มาจากเมืองจีน
ต่อมาได้หาทดแทนจากดินที่ท่าใหม่จันทบุรี และสุราษฏร์ธานี
เมื่อกิจการรุ่งเรืองขึ้น โรงงานจึงขยายกิจการและผลิตโอ่งเพิ่มมากขึ้น
หุ้นส่วนหลายคนแยกตัวไปตั้งโรงงานเอง โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรี
ปัจจุบันมีโรงงานผลิตโอ่งอยู่ถึง 42 แห่ง และเป็นโรงงานผลิตเครื่องเคลือบรูปแบบต่าง ๆ ออกไปอีก 17 แห่งตามจังหวัดอื่น ๆ ที่แยกไปจากนี้ คือ ที่อำเภอ
หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดชลบุรีและในกรุงเทพมหานครบริเวณ สามเสน เป็นต้น
เจ้าของโรงงาน ช่างปั้น และประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดราชบุรี เมื่อครึ่งศตวรรษมาแล้วล้วนเป็นลูกหลานจีน ดังนั้นช่างปั้นจึงได้คิดคัดเลือกลวดลายที่เป็นมงคล และมี
ความหมายที่ดี เพื่อให้เกิดความรู้สุกที่ดีต่อผู้ใช้ นอกเหนือจากความงามเพียงอย่างเดียว ที่สุดก็ได้เลือกสรรลวดลายมังกร ซึ่งแฝงและฝังไว้ด้วยความหมายตามความเชื่อ
คตินิยมในวัฒนธรรมจีน
ลวดลายมังกรดั้นเมฆ มังกรคาบแก้ว และมังกรสองตัวเกี่ยวพันกัน ล้วนเป็นสัตว์สำคัญในเทพนิยายของจีน เป็นเทพแห่งพลัง แห่งความดี และแห่งชีวิต ช่างปั้นเลือกเอา
มังกรที่มี 3 เล็บหรือ 4 เล็บ เป็นลวดลายตกแต่งโอ่ง ช่างผู้ชำนาญปาดเนื้อดินด้วยหัวแม่มือเป็นรูปมังกร โดยไม่ต้องร่างแบบ ขีดเป็นลายมังกรด้วยปลายซี่หวี เป็นหนวด นิ้ว
เล็บ ส่วนเกล็ดมังกรหยักด้วยแผ่นสังกะสีแล้วเน้นลูกตาให้เด่นออกมา

มารู้จักมังกรซิครับ
พญานาค
เป็นชื่อที่คนไทยเรียก
มังกร
เป็นชื่อที่คนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและญวนใช้เรียก
จึงผิดกันเฉพาะรูปร่างหน้าตาและชื่อที่เรียกเท่านั้น ไทยเราไม่เรียก แล้ง เล่ง หรือ หลง ตามภาษาจีน แต่เรียกมังกร มาจากบาลีสันสกฤตว่า มกร หรืออย่างไร ก็ไม่ทราบ
ว่าถึงรูปร่างมกรก็เป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนรูปเล่งของจีน ในหนังสือตำราพิชัยสงคราม สมัยรัชกาลที่ 2 มีการจัดขบวนทัพข้ามน้ำเรียกว่า มังกรพยุหะ ก็เขียนรูปมังกรคล้าย
พญานาค เพียงแต่เพิ่มเขาและเท้าเข้าไปเท่านั้น บางตัวก็มีเกล็ด บางตัวก็มีลายแบบงู ความจริงรูปร่างมังกรแบบจีน คนไทยก็คงเคยเห็นมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้วใน
สมัยรัตนโกสินทร์ก็ใช้เป็นลายประดับตามประตู และสลักบนแผ่นหินหลายแห่งรูปมังกรของจีนคงจะได้แพร่หลายไปตามภาชนะพวกถ้วยชามโอ่งไห ดังได้พบบนลายโอ่ง
สมัยราชวงศ์ถังที่พบในแม่น้ำลำคลอง
ความจริงแล้วเรื่องของมังกร พญานาค งู ปลา จระเข้ มีเรื่องพัวพันกันชอบกลเรื่องของจีนที่เกิดสมัยที่นับถือพระพุทธศาสนาแล้ว ไทยแปลคำว่า เล้ง เล่ง หลง เป็น
พญานาคหมด ทำให้คนไทยเข้าใจเรื่องดีขึ้น และไทยก็เอารูปมังกรมาเขียนเป็นเป็นแบบไทย ๆ คล้ายพญานาคดังกล่าวมาแล้ว
ในหนังสือประวัติวัฒนธรรมจีนได้กล่าวถึงกำเนิดมังกรไว้เป็นความว่า มังกรเกิดขึ้นในสมัยอึ่งตี่หรือหวงตี้ ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องหมายประจำชาติจีน เพราะ
สมัยโบราณมนุษย์นิยมใช้รูปสัตว์หรือดอกไม้เป็นเครื่องหมายประจำเผ่าของตน ชาติจีนที่ได้รวมขึ้นเป็นชาติใหม่ จึงควรมีเครื่องหมายประจำชาติใหม่ กษัตริย์อึ่งตี่จึงนำ
ส่วนต่าง ๆ ของสัญลักษณ์ที่แต่ละเผ่าเคยใช้มารวมกัน คือนำหัวของสัญลักษณ์ชนเผ่าวัว ลำตัวของเผ่างู เกล็ดหางของเผ่าปลา เขาของเผ่ากวาง และเท้าของเผ่านก นำ
ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มาปรุงเป็นรูปสัตว์ชนิดใหม่ขึ้นเรียกว่า เล้ง หรือมังกร
มังกรมีเล็บไม่เท่ากัน มังกรผู้ยิ่งใหญ่หรือระดับหัวหน้าจะมี 5 เล็บ และรูปมังกรที่ฉลองพระองค์ของจักรพรรดิจะมีเล็บมากกว่ามังกรธรรมดา คือ ธรรมดามีเพียง 4 เล็บ
รูปมังกรที่ฉลองพระองค์ก็จะมี 5 เล็บ และใช้เป็นเครื่องหมายของราชวงศ์ที่มียศสูงสุดส่วนพวกเจ้าชั้นที่ 3 ที่ 4 หรือขุนนางใช้เป็นเครื่องหมายได้เพียงมังกรชนิดชนิด 4
เล็บเท่านั้น ส่วนการประดับตกแต่งทั่ว ๆ ไปก็จะใช้มังกรชนิด 3 เล็บเป็นพื้น มังกรชนิด 5 เล็บนั้นกล่าวว่าเล็บที่ 5 ไม่ได้เรียงกันแบบธรรมดา เล็บที่ 5 จะวางอยู่ตรงกลางฝ่า
เท้า
มังกรของจีน นอกจากจะมีเขาแบบกวางแล้ว ตัวผู้ยังมีหนวดมีเคราอีกด้วย ตั้งแต่รัชกาล เถาจื่อ แห่งราชวงศ์ถัง ได้เริ่มใช้มังกร 5 เล็บ เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ
มังกรมี 3 ชนิด แต่แบ่งหน้าที่เป็น 4 พวก
จีนได้แบ่งชนิดของมังกรออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
หลง
เป็นพวกที่มีอำนาจมากที่สุด มีนิสัยชอบอยู่บนฟ้า
หลี
เป็นพวกที่ไม่มีเขา อาศัยอยู่ในมหาสมุทร
เจียว
เป็นพวกมีเกล็ด อยู่ตามลุ่มหนองหรือถ้ำในภูเขา
ที่รู้จักกันมากคือ หลง ซึ่งมีส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ 9 อย่างดังกล่าวมาแล้ว
มังกรของจีนมีหน้าที่แบ่งกันทำ 4 พวกด้วยกัน คือ
มังกรสวรรค์
มีหน้าที่รักษาวิมานเทวดาและค้ำจุนวิมานไม่ให้พังลงมา
มังกรเทพหรือมังกรเจ้า
มีหน้าที่ให้ลมให้ฝนเพื่อประโยชน์ของมนุษย์
มังกรพิภพ
มีหน้าที่กำหนดเส้นทางดูแลแม่น้ำลำธาร
มังกรเฝ้าทรัพย์
มีหน้าที่เฝ้าขุมทรัพย์ของแผ่นดิน
มีเรื่องน่าสังเกตว่า หน้าที่ของมังกรไปตรงกับหน้าที่ของพญานาค ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 พวกเหมือนกัน
ไทยรู้จักมังกรมาตั้งแต่เมื่อไร
อย่างต่ำที่สุดก็ พ.ศ.2276 ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ มีรูปมังกรประดับพระเมรุด้วย แต่รูปร่างจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ มาเห็นรูป
ร่างมังกรในตำราพิชัยสงครามสมัยรัชกาลที่ 2 กรุงรัตนโกสินทร์ก็เป็นแบบไทย ๆ คือคล้ายพญานาค แต่ไม่มีหงอนสูง มีเขา 2 เขา มีครีบ มีตีน

ทำไมรูปมังกรจึงต้องมีลูกแก้วด้วย
ตามตำนานกล่าวว่า มังกรมีไข่มุกมีค่าเท่ากับทองร้อยแท่งอยู่ในปาก เมื่อมังกรต่อสู้กันอยู่บนอากาศ ไข่มุกก็ตกลงมาบนพื้นดิน ต้นเรื่องของมังกรคาบแก้วหรือเล่น
แก้วจะมาจากเรื่องนี้หรือเปล่าไม่ทราบ แต่ฟังตามเรื่องแล้วมังกรชอบเพชนนิลจินดามาก ตามภาพเขียนของจีนถ้าเป็นรูปมังกร 2 ตัวหันหน้าเข้าหากัน ก็จะเป็นรูปกลม ๆ สี
แดงอยู่ระหว่างมังกรทั้งสองนี้ บ้างก็ว่ารูปกลมแดงนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์







โอ่งมังกรนำมาทำน้ำพุ น้ำพุด น้ำล้น ก็สวยดีและยังมีความหมายในทางที่เป็นมงคลอีกด้วย หมายถึงมีความเจริญรุ่งเรือง


















โอ่งใบเล็ก ๆ หรือไหสามารถนำมาจัดสวนก็สวยมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์


เสน่ห์ของสวนหิน สวยมีสไตล์

สวัสดีวันนี้ผมมีรูปแบบการจัดสวนที่มีเสน่ห์ เป็นให้สวนของเราดูมีสไตล์ นั่นก็คือการจัดสวนหิน(Garden Stone) มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เป็นรูปแบบ ๆ หนึ่งที่มีการจัดที่ลงตัว กลมกลืนกับพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์และเป็นระเบียบ สำหรับใครที่ชอบแนวหินอาจจะนำไอเดียแบบที่นำมาใช้ชมกันก็ได้ไม่ว่ากัน เพียงแต่สังเกตุรายละเอียดการวางของหินว่าควรจะมีอะไรมาประกอบ เช่น ต้นไม้ยืนต้น ไม่คลุมดิน หรือวางบนสนามหญ้า อะไรประมาณนั้น



รูปแบบการจัดสวนหินที่ด้านหลังเป็นไม้ยืนต้น เช่นสิบสองปันนา ปาล์ม หมาก แล้วปูหญ้าในส่วนหน้าสุด หรืออาจใช้ไม้คลุมดินเช่น กาบหอยแครง เกล็ดแก้ว ปีกผีเสื้อ หรือจะใช้ต้นรางทองแซม ก็สวยใช้ได้





การวางหินนั้นให้เลือกมุมหินก่อนที่จะวาง เพราะหินแต่ละก้อนมีลักษณะและมุมมองที่แตกต่าง ๆ กัน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะวางควรพิจารณาให้ดีว่า วางแบบไหนจึงจะเข้ากับพื้นที่ เข้ากับต้นไม้ หรืออาจจะทำให้ดูสวยงามและปลอดภัยด้วย

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

สวนรีสอร์ท สวยสไตล์ธรรมชาติ

สวัสดีครับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพ วันนี้ผมจะนำไอเดียการจัดสวนแบบสวนรีสอร์ท ที่น่าสนใจเหมาะสำหรับเป็นไกด์ที่จะเพิ่มเติม สำหรับท่านที่อยากจะจัดสวนภายในรีสอร์ท หรือมีบ้านเป็นมีเนื้อที่อยู่ในที่สูงหรือว่าเชิงเขา อาจจะนำแบบที่ผมนำมาให้ดูเป็นส่วนประกอบที่ประยุกต์ใช้ได้ คือว่าการจัดสวนนั้นไม่มีรูปแบบที่แน่นอน แต่จะขึ้นอยู่กับสิ่งต่าง ๆ หลายประการประกอบกัน เช่น
1. ภูมิประเทศเป็นอย่างไร ที่สูง เชิงเขา หรือว่าที่ราบธรรมดา
2. ทิศทางของดวงอาทิตย์ขึ้นและลง นั่นก็จะเกี่ยวข้องกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา และตกทางด้านใด ก็ควรจะรู้ว่าเราควรจะปลูกไม้ใหญ่ทางด้านใด เพื่อช่วยในการบังแสงแดดตอนเข้า และแดดตอนเย็น
3. การเลือกพรรณไม้ที่เหมาะสมกับพื้นพี่ ไม้ดอก ไม้ใบ ไม้ที่อยู่กลางแจ้ง และไม้ที่ควรอยู่ในที่ร่มแดดรำไร เป็นต้น
4. การเลือกใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นที่มีอยู่ เพราะว่าจะได้เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง ไม่จำเป็นต้องจัดให้เหมือนกับใคร ก็จะทำให้สวนเราเป็นในแบบของเรา











ภาพที่เห็นคือรูปแบบการจัดสวนแบบสวนรีสอร์ท ที่มีสไตล์การจัดในแบบของตัวเอง ใช้ภูมิประเทศ เป็นตัวตั้งแล้วปรับรูปแบบตัวรีสอร์ท ต้นไม้ ทางเดิน ถนน ต่าง ๆ ให้เข้ากับภูมิประเทศ ได้อย่างลงตัวเป็นธรรมชาติที่สุด











ภายในรีสอร์ทปลูกดอกไม้ในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้บรรยาศดูแล้วน่าเที่ยวยิ่งขึ้น

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

ชาฮกเกี้ยน สวยทน เป็นระเบียบ

ต้นที่ท่านเห็นอยู่นี้คือ ต้นชาฮกเกี้ยน หลาย ๆ คนอาจจะ งง อยู่บ้าง ว่าเจ้าต้นนี้ทำไมจึงเหมือน บอนไซ ก็ดูแล้วก็จะว่าเช่นนั้นก็ได้ ผมคิดว่าทุกคนคงได้เห็นกันเป็นประจำแน่ ๆ เลย แต่ไม่รู้ว่าเจ้าต้นไม้ต้นนี้คือ ต้นชาฮกเกี้ยน แต่ถ้าผมบอกว่าตามถนนหนทางที่อยู่หน้าบ้านท่าน หรือตามเกาะกลางถนนที่เป็นแถว ๆ ติดกัน ตัดเป็นเหลี่ยนม ๆ คงต้องร้อง อ๋อ เป็นแน่
ต้นชาฮกเกี้ยนจึงจัดเป็นไม้ประเภทคลุมดินที่เป็นที่นิยมสำหรับการจัดสวนตามสถานที่ราชการ ต่าง ๆ ตามถนนหนทาง เนื่องจากว่าเจ้าต้นชาฮกเกี้ยนนี้มีใบที่ละเอียด ทรงพุ่มที่แน่น จัดทรงได้ง่าย บางทีทำเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ก็ดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ต้นชาฮกเกี้ยนทำเป็นสวนถาด



ต้นที่วางขายตามร้านขายต้นไม้ประมาณ 15. บาท


ตามสถานที่ราชการต่าง ๆ นิยมนำมาจัดเป็นแนวกั้น ดีแล้วเป็นระเบียบดี




















ภาพที่เห็นคือ ต้นชาฮกเกี้ยน ปลูกเป็นมังกรพ่นน้ำ ส่งเสียงได้














กระถางนำมาร้อยเป็นรูปน้ำเต้าขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นชาฮกเกี้ยน

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

คุณนายตื่นสาย ปลูกง่าย ดอกก็สวย

สวัสดีครับวันนี้ผมตื่นนอนมาก็มานั่งจิบกาแฟ ด้วยอากาศเย็นสบาย ๆ ไม่ร้อนมากนักเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย กรมอุตุฯ เขาบอกว่ามีมรสุมเข้ามา ขอให้ชาวเรือระมัดระวังหน่อย ว่าไป..... แต่สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำเพื่อนฟ้องน้องพี่ทั้งหลายว่า ต้นไม้ธรรมด๊า ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา อะไรจะปานนั้น คือว่าเจ้าต้นคุณนายตื่นสายนั่นเอง ซึ่งแฟนผมปลูกใส่กระถางเรียงรายไว้ที่หน้าบ้าน พอตอนสาย ๆ หน่อยมีแดดสักนิด เจ้าคุณนายตื่นสายก็จะทำหน้าที่ของเขาแล้ว คือแต่ละดอกบานสะพรั่ง สวยสดงดงาม มีดอกสีแดง ชมพู แสด ขาว เหลือง ส้ม บานเย็น โอ๊ยสวยมาก

เป็นไงสวยไหมครับ ผมบอกแล้วไงว่าเป็นดอกไม้ที่แสนจะธรรมด๊า ธรรมดา ปลูกก็ง่าย ไปนำต้นพันธุ์มาปัก ๆ ใส่ในกระถางหรือว่าลงดินก็ได้แล้ว รดน้ำใส่ปุ๋ยสัก 7 วัน ก็จะเห็นดอกของเขาแล้ว ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเปลืองเงินเปลืองทองไปหาซื้อต้นไม้แพง ๆ มาปลูก เพราะเจ้าคุณนายตื่นสายนั้นขยายพันธุ์ง่ายมาก ๆ ใครมีกระถางว่าง ๆ ลองไปปลูกคุณนายตื่นสายไว้สักต้น 2 ต้นก็ได้ เช้า ๆ ไปถึง สาย ๆ คุณตื่นเช้ามาในวันหยุดพักผ่อน ก็ไปชื่นชมความงามของคุณนายตื่นสายได้

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

สวนน้ำแบบต่าง ๆ
















ไม้มงคล 9 ชนิด สำหรับวางศิลาฤกษ์

ท่านเคยทราบหรือไม่ว่าพิธีวางศิลาฤกษ์ ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ก่อนทำการก่อสร้างนิยมทำพิธีวางศิลาฤกษ์นั้นเขาใช้ไม้มงคลถึง ๙ ชนิดด้วยกัน โดยใช้ไม้มงคล ๙ ชนิด ปักกับพื้นดิน ไม้ทั้ง ๙ ชนิด มีชื่อเป็นมงคลนาม ได้แก่ ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ขนุน ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้ทองหลาง ไม้ไผ่สีสุก ไม้ทรงบาดาล ไม้สัก ไม้พะยูง และไม้กันเกรา อ่านรายละเอียดด้านล่างครับ











๑. ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ผลัดใบ สูง 8 - 15 เมตรนิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดเอเชียแถบร้อน ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไปออกดอก กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ทิ้งใบก่อนออกดอกขยายพันธุ์ โดยเมล็ด วิธีการเตรียมเมล็ดก่อนเพาะ นำเมล็ดมาตัดหรือทำให้เกิด บาดแผลที่ปลายเมล็ดแล้ว แช่น้ำไว้ 12 ชั่วโมง หรือแช่กรดซัลฟูริคเข้มข้น 1.84 ประมาณ 15 นาที แล้วล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง วิธีนี้สะดวกแต่อันตราย และอีกวิธีหนึ่งคือ ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงในเมล็ด ทิ้งไว้ข้ามคืน ทั้ง 2 วิธีนี้จะทำ ให้เมล็ดดูดน้ำเข้าไปและพร้อมที่จะงอก วิธีเพาะ อาจหยอดลงในถุงดินที่เตรียมไว้หรือจะเพาะในแปลงเพาะแล้วย้ายชำกล้าในภายหลัง ควรให้เมล็ดอยู่ใต้ผิวดิน 3-5 มิลลิเมตร รดน้ำให้ชุ่ม เมล็ดจะงอกภายใน 1-2 สัปดาห์
ประโยชน์ ราก ฝนทาแก้กลาก เป็นยาระบาย รากและแก่นเป็นยาขับพยาธิ เปลือกและไม้ใช้ฟอกหนัง และใช้บดทาผื่นตามร่างกาย เนื้อไม้สีแดงแกมเหลืองทนทานใช้ทำเสา ล้อเกวียน ใบต้มกินเป็นยาระบาย ดอกแก้ไข้ ฝักเนื้อในรสหวาน เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาการแน่นหน้าอก แก้ขัดข้อ










๒. ไม้ขนุน หมายถึง หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ขนาดใหญ่ สูง 15 - 30 เมตร ลำต้นและกิ่งเมื่อมีบาดแผลจะมีน้ำยางสีขาวข้นคล้ายน้ำนมไหลนิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดียเป็นพืชเศรษฐกิจเมืองร้อนที่ให้ผลมีขนาดใหญ่ที่สุดสามารถ บริโภคทั้งผลดิบและผลสุก นอกจากนี้ยังนำไปแปรรูปเป็นอาหารชนิดต่างๆ มีปลูกทั่วทุกภาคของประเทศไทยออกดอก จะออกปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม และเมษายน - พฤษภาคมขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด ติดตา และทาบกิ่ง
ประโยชน์ ผลอ่อน ใช้ปรุงอาหาร ผลสุกเยื่อหุ้มเมล็ดมีรสหวาน เมล็ดปรุงอาหาร เนื้อไม้ ใช้ทำพื้นเรือนและสิ่งก่อสร้าง ครก สากกระเดื่อง หวี โทน รำมะนา ระนาด รากและแก่น ให้สีเหลือง ถึงเหลืองอมน้ำตาล ใช้ย้อมผ้าและแพรไหม รากนำมาปรุงเป็นยาแก้ท้องร่วง แก้ไข้ ใบ เผาไฟกับซังข้าวโพดให้ดำเป็นถ่าน แล้วใส่รวมกับก้นกะลามะพร้าวขูด โรยรักษาบาดแผล










๓. ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง การมีโชคชัย ชัยชนะ ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น สูงถึง 15 เมตร ลำต้นสีน้ำตาล ทรงพุ่มใบกลมคล้ายร่ม เมื่อต้นยังอ่อนมีหนาม ใบประกอบรูปขนนกปลายคู่ เรียงสลับ มีใบย่อย 5 - 15 คู่ แผ่นใบรูปไข่แกมรูปรี หรือรูปขอบขนาน ขนาดกว้าง 1.5 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 2.5 - 5 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบกลม ผิวใบด้านล่างมีขนละเอียดดอก เริ่มบานสีชมพู แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ใกล้โรยดอกสีขาว ออกเป็นช่อตามกิ่งยาว 5 - 16 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงสีแดง หรือแดงปนน้ำตาล ดอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 เซนติเมตร ผลเป็นฝักกลมสีดำ ยาว 20 - 60 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 - 1.5 เซนติเมตร เมื่อแก่ไม่แตกมีเมล็ดจำนวนมากนิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดอินโดนีเซีย ออกดอก กุมภาพันธ์ - เมษายนขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด วิธีเพาะเช่นเดียวกับราชพฤกษ์ประโยชน์ เนื้อในฝักเป็นยาระบายอ่อน ๆ ปลูกประดับ ดอกสวยงาม









๔. ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีทรัพย์สินเงิน มีเงินทองใช้ไม่ขัดสน ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ผลัดใบ สูง 5 - 10 เมตร ตามกิ่งต้นอ่อนมีหนาม เรือนยอดเป็นพุ่มกลม โปร่งนิเวศวิทยา พบทั่วไปในย่านเอเชียเขตร้อนและอบอุ่นออกดอก มกราคม - กุมภาพันธุ์ ขยายพันธุ์ โดยเมล็ดและปักชำ ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ










๕. ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัย ข้อมูลทางวิชาการเป็นไม้ไผ่ประเภทมีหนาม ความยาวลำต้นสูง 10 - 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 - 12 เซนติเมตร แข็ง ผิวเรียบเป็นมัน ข้อไม่พองออกมา กิ่งมากแตกตั้งฉากกับลำต้น หนามโค้งออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 อัน อันกลางยาวกว่าเพื่อน ลำมีรูเล็กเนื้อหนา ใบมีจำนวน 5 - 6 ใบ ที่ปลายกิ่ง ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่มกว้าง ๆ หรือตัดตรง แผ่นใบกว้าง 0.8 - 2 เซนติเมตร ยาว 10 - 20 เซนติเมตร ใต้ใบมีสีเขียวอมเหลือง เส้นลายใบมี 5 - 9 คู่ ก้านใบสั้น ขอบใบสาก คลีบใบเล็กมีขนนิเวศวิทยา เชื่อกันว่าเป็นไม้ดั้งเดิมในหมู่เกาะอินเดียตะวันออก หรือหมู่เกาะแปซิฟิคตอนใต้ ในประเทศไทย มักจะขึ้นอยู่ตามที่ราบลุ่มริมห้วย แม่น้ำ และมักปลูกรอบ ๆ บ้านในชนบทขยายพันธุ์ ปักชำ ใช้ท่อนไม้ไผ่มาตัดทอนเป็นท่อน ๆ ให้ติดปล้อง 1 ปล้อง (ข้อตา) นำมาปักไว้ในวัสดุชำ เอียงประมาณ 45 องศา เรียงเป็นแถวเป็นแนวเดียวกันเพื่อสะดวกในการดูแลรักษา เติมน้ำลงในกระบอกไม้ไผ่ให้เต็ม ประมาณ 4 สัปดาห์ หน่อจะแตกออกจากตาไม้ไผ่ และรากจะงอกออกจากปุ่มใต้ตา หรือถ้าตัดทอนท่อนไม้ไผ่ให้ตัดข้อตา 2 ข้อ แล้วเจาะตรงกลางระหว่างข้อตา สำหรับเติมน้ำลงไปในปล้อง นำไปวางนอนในวัสดุชำแนวราบก็ได้เช่นกันประโยชน์ สมัยก่อนมักปลูกไว้รอบบ้านเป็นรั้วกันขโมย กันลม หน่อเมื่ออยู่ใต้ดินทำอาหารได้มีรสดี เมื่อโผล่พ้นดินประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร มักเอาไปทำหน่อไม้ดอง จะให้รสเปรี้ยว สีขาว และเก็บได้นาน โดยไม่เปื่อยเหมือนหน่อไม้ชนิดอื่น เนื้อไม้หนาแข็งแรง ใช้สร้างบ้านในชนบทได้ทนทาน ทำเครื่องจักสาน เครื่องใช้ในการประมง ใช้ในการทำนั่งร้านก่อสร้าง ส่วนโคนนิยมใช้ทำไม้คานหาบหามและใช้ทำกระดาษให้เนื้อเยื่อสูง









๖. ไม้ทรงบาดาล หมายถึง ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรงข้อมูลทางวิชาการไม้พุ่ม สูง 3 - 5 เมตร ใบ ประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อย 4 - 6 คู่ รูปไข่หรือรูปไข่แกมขอบขนาน ขนาดกว้าง 1 - 2 เซนติเมตร ยาว 2.5 - 4 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ดอก สีเหลืองออกตามซอกใบ และปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 - 3 เซนติเมตร ผล เป็นฝักแบน กว้าง 1 - 1.5 เซนติเมตร ยาว 7 - 20 เซนติเมตรนิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดเอเชียเขตร้อนและจาไมก้า ออกดอก ตลอดปี ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด วิธีเตรียมเมล็ด ก่อนเพาะ นำเมล็ดมาแช่น้ำร้อน 80 - 90 องศาเซลเซียส แล้วทิ้งไว้ให้เย็น 16 ชั่วโมง วิธีเพาะเมล็ด เช่นเดียวกับราชพฤกษ์ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ










๗. ไม้สัก หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ อำนาจบารมี คนเคารพนับถือและยำเกรง ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ขนาดใหญ่ผลัดใบในฤดูร้อน ลำต้นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็ก ๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำ ๆ เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมค่อนข้างทึบ เปลือกสีเทา เรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นตามความยาวลำต้นนิเวศวิทยา ขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ บางส่วนในภาคกลางและภาคตะวันตก มีอยู่บ้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือออกดอก ออกดอกและเป็นผลเดือน มิถุนายน - ตุลาคมขยายพันธุ์ โดยเมล็ด ปักชำประโยชน์ เนื้อไม้มีลายสวยงามแข็งแรงทนทาน เลื่อย ผ่า ไสกบตบแต่ง และชักเงาได้ง่าย ใช้ทำเครื่องเรือนและในการก่อสร้างบ้านเรือน ปลวก มอด ไม่ชอบทำลายเพระมีสารพวกเตคโตคริโนน









๘. ไม้พะยูง หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ผลัดใบ สูง 15 - 25 เมตร เปลือกสีเทาเรียบเรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่นิเวศวิทยา ขึ้นในป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณชื้น ทั่ว ๆ ไป ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกออกดอก พฤษภาคม - กรกฎาคม ฝักแก่ กรกฎาคม - กันยายนขยายพันธุ์ โดยนำเมล็ดแช่ในน้ำเย็น 24 ชั่วโมง แล้วเพาะในกะบะเพาะ โดยหว่านให้กระจายทั้งกะบะเพาะแล้วโรยทรายกลบบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม เมล็ดจะงอกภายใน 7 วัน เมื่อกล้าไม้อายุ 10-14 วัน ความสูงประมาณ 1 นิ้ว มีใบเลี้ยง 1 คู่ สามารถย้ายชำในถุงหรือภาชนะที่เตรียมไว้ได้ประโยชน์ เนื้อไม้สีแดงอมม่วง ถึงแดงเลือดหมูแก เนื้อละเอียด แข็งแรงทนทาน ขัดและชักเงาได้ดี ใช้ทำเครื่องเรือน เกวียน เครื่องกลึงแกะสลัก ทำเครื่องดนตรี เช่น ซอ ขลุ่ย ลูกระนาด











๙. ไม้กันเกรา หมายถึง ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตำเสา ซึ่งอาจหมายถึงทำให้เสาเรือนมั่นคง ข้อมูลทางวิชาการไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 25 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องลึกไม่เป็นระเบียบนิเวศวิทยา ขึ้นทั่วไปในป่าเบญจพรรณชื้น และตามที่ต่ำ ที่ชื้นแฉะใกล้น้ำ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยออกดอก เมษายน - มิถุนายน เป็นผล มิถุนายน - กรกฎาคมขยายพันธุ์ โดยเมล็ดประโยชน์ เนื้อไม้ สีเหลืองอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด เหนียว แข็ง ทนทาน ใช้ในการก่อสร้าง นิยมใช้ทำเสาเรือน แก่นมีรสฝาดใช้เข้ายาบำรุงธาตุ แน่นหน้าอก เปลือกใช้บำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปลูกเป็นไม้ประดับ